วันพุธที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ประวัติสาวเครือฟ้า2

สาวเครือฟ้า
 
 
 
สาวเครือฟ้า เป็นเรื่องราวของสาวเหนือผู้งดงามและแสนจะซื่อสัตย์ แต่กลับถูกสลัดรักจากทหารหนุ่มจากเมืองกรุง จนสุดท้ายสาวเหนือถึงกับบูชารักด้วยชีวิตเรื่อราวสาวเครือฟ้าในความคิดของคนส่วนใหญ่ คิดว่าเป็นเรื่องจริงไม่อิงนิยาย แต่ในความเป็นจริงกลับอิงนิยาย กล่าวคือดัดแปลงมาจากละครอุปรากรเรื่อง “มาดามบัตเตอร์ ฟลาย” (Madame Butterfly) ผลงานของ เกียโคโม ปุชชินี (Giacomo Puccini) คีตกวีชาวอิตาลี ซึ่งเขาเองได้เค้าโครงเรื่องมาจากนวนิยายของ จอห์น ลูเธอร์ ลอง (John Luther Long) อีกทีหนึ่ง

มาดามบัตเตอร์ฟลาย มีเนื้อเรื่องย่อว่า สาวน้อยนาม “โจโจ้ซัง” เป็นบุตรีของซามูไรข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งได้ทำฮาราคีรีเพื่อรักษาเกียรติยศ ขณะที่โจโจ้ซังอายุได้ ๑๐ ขวบ เมื่อสิ้นบิดาฐานะจึงยากจนลง เธอถูกส่งไปอยู่สำนักเกอิชาในเวลาต่อมา กระทั่งอายุได้ ๑๕ ปี เธออยู่สำนักเกอิชา ณ ท่าเรือนางาซากิ ความงดงามของโจโจ้ซังร่ำลือระบือไกล เป็นที่หมายปองของชายหนุ่มน้อยใหญ่ แม้กระทั่งเจ้าชาย “ยามาโดริ” มหาเศรษฐียังมาหลงรัก ความงดงาม ความสวยน่ารักและความอ่อนโยนนี้เองทำให้เธอได้สมญาว่า “ผีเสื้อ” แห่งนางาซากิ

ครั้งนั้น พิงเคอร์ตัน นายเรืออเมริกันได้เดินทางมากับเรือรบถึงท่านางาซากิ เขาได้พบกับโจโจ้ซัง โดยการชักนำของนายหน้าจัดหาคู่ที่ชื่อ “โกโร่” พิงเคอร์ตันกับโจโจ้ซังเกิดมีใจปฏิพัทธ์รักใคร่กัน ตกลงจะแต่งงานกัน แต่ “ชาร์ปเลส” กงสุลอเมริกันไม่เห็นด้วย เกรงว่าจะเกิดปัญหาภายหลัง เพราะโจโจ้ซังเป็นคนซื่อสัตย์ ยึดมั่นการสมรสเป็นข้อผูกพันตลอดชีวิต แต่พิงเคอร์ตัน เจ้าชู้เจ้าสำราญหาความแน่นอนไม่ค่อยได้ แต่พิงเคอร์ตันก็แต่งงานกับโจโจ้ซังจนได้ โดยไม่ฟังคำทัดทานของชาร์ปเลส ในวันแต่งงาน โจโจ้ซังประกาศสละศาสนาและความเชื่อในบรรพบุรุษ สร้างความไม่พอใจให้กับ “บอนซ์” นักบวชผู้เป็นลุง ถึงกับด่าทอ สาปแช่งต่างๆนานา พร้อมประกาศตัดสัมพันธภาพกับเธอตั้งแต่บัดนั้น

พิงเคอร์ตันอยู่กินกับโจโจซังจนโจโจ้ซังตั้งครรภ์ พิงเคอร์ตันต้องเดินทางกลับอเมริกา ก่อนกลับเขาให้สัญญาว่าจะกลับคืนมาเมื่อนก “รอบิน” ทำรังได้ ๓ ครั้ง คือ ๓ ปีนั่นเอง แต่แล้วเมื่อครบ ๓ ปี เขายังไม่กลับ มิหนำซ้ำยังแต่งงานใหม่กับหญิงอเมริกันชื่อ “เคท” ฝ่ายโจโจ้ซังกับบุตรน้อยก็ได้แต่รอคอย โดยมี “ซูซูกิ” สาวใช้คอยปลอบประโลมให้กำลังใจ

เรือรบกลับมานางาซากิอีกครั้ง พิงเคอร์ตันและเคทมาพร้อมเรือลำนั้น การกลับมาครั้งนี้เขาไม่กล้าสู้หน้าโจโจซัง เขาได้แต่ใช้ชาร์ปเลสไปบอกโจโจ้ซังว่าตนแต่งงานใหม่แล้ว และขอเอาลูกน้อยไปเลี้ยงดู เมื่อโจโจ้ซังทราบความจริง เธอเศร้าโศกเสียใจเป็นที่สุด และแล้วเธอก็หยิบมีดที่บิดาเคยใช้ทำฮาราคีรีออกมาอ่านถ้อยคำที่จารึกบนใบมีดว่า “ควรตายด้วยเกียรติ ดีกว่าอยู่โดยไร้เกียรติ” ก่อนจะจ่อมีดแทงคอตายปิดฉากรักอันแสนเศร้า

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงทอดพระเนตรละครอุปรากร (โอเปร่า) เรื่องนี้ ณ เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศล เมื่อพระองค์เสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ ๒ พ.ศ.๒๔๘๐ และเมื่อเสด็จนิวัติพระนครแล้วทรงเล่าประทานให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ฟัง กรมพระนราธิปฯ จึงทรงดัดแปลงเป็นบทละครร้องโดยเปลี่ยนเป็นนิยายรักระหว่างนายทหารชาวกรุงกับสาวงามชาวเชียงใหม่ แล้วให้ชื่อเรื่องว่า “สาวเครือฟ้า” ซึ่งมีเรื่องย่อดังนี้

สาวเครือฟ้า เป็นธิดาของคนเลี้ยงช้างเชียงใหม่ มีความงดงามซื่อใสเป็นที่รักใคร่ของคนที่ได้พบเห็น ครั้งนั้นนายทหารหนุ่มจากบางกอกชื่อ “ร้อยตรีพร้อม” ขึ้นมารับราชการที่นครเชียงใหม่ เมื่อได้พบสาวเครือฟ้าก็ผูกสมัครรักกันและได้แต่งงานอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข จนสาวเครือฟ้าตั้งครรภ์ ต่อมาเกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ ไทยเข้าร่วมรบกับฝ่ายพันธมิตรมีการระดมทหารไปรบที่ยุโรป ร้อยตรีพร้อมได้อาสาไปร่วมรบ โดยให้สัญญากับเครือฟ้าว่าจะกลับมาในเวลาไม่นาน ร้อยตรีพร้อมไปร่วมรบอย่างกล้าหาญ เมื่อกลับเมืองไทยก็ได้รับพระราชทานเลื่อนยศเป็น “พันตรีหลวงณรงรักษ์ศักดิ์สงคราม” แต่เนื่องจากในระหว่างสนามรบ เขาได้รับบาดเจ็บจากเหตุเครื่องบินตก สมองถูกกระทบกระเทือน ความทรงจำเลอะเลือน แต่ก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากพยาบาลสาวที่ชื่อ “จำปา” ความใกล้ชิดทำให้นายทหารหนุ่มกับพยาบาลสาวรักใคร่ชอบพอกันจนได้แต่งงานกัน ด้วยความเห็นชอบของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย

ส่วนเครือฟ้ากำเนิดบุตรชื่อ “เครือณรงค์” เธอตั้งใจจดจ่อรอเวลาที่ร้อยตรีพร้อมจะกลับมาเชียงใหม่ ภรรยาจะได้เห็นหน้าสามี ลูกจะได้เห็นหน้าพ่อ และกาลเวลานั้นก็มาถึง ร้อยตรีพร้อมหรือคุณหลวงพร้อมได้รับบัญชาให้นำเครื่องบินมาบินแสดงที่เชียงใหม่ เครือฟ้าดีใจเป็นที่สุด เธออุ้มลูกน้อยไปพบคุณหลวง แต่อนิจจาคุณหลวงหรือร้อยตรีพร้อมจำเธอไม่ได้ มิหนำซ้ำยังถูกจำปาขัดขวาง ขับไล่ ดูหมิ่นดูแคลนต่าง ๆ นานา

ความน้อยเนื้อต่ำใจ ความโศกสลดเสียใจสร้างความสะเทือนใจที่แสนจะหนักหน่วง เกินกว่าที่ดวงใจน้อยๆ ของสาวเครือฟ้าจะรับได้ เธอตัดสินใจหลีกทางรัก ปาดคอตายในเวลาต่อมา

นิยายรักเรื่องสาวเครือฟ้าเผยแพร่กระจายออกไป เมื่อมีการนำไปแสดงเป็นภาพยนตร์ครั้งแรก เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๖ นำแสดงโดย วิไลวรรณ วัฒนพานิช คู่กับ ชลิต สุเสวี ครั้งต่อมาเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๘ นำแสดงโดย พิศมัย วิไลศักดิ์ และ มิตร ชัยบัญชา และอีกครั้ง เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๓ ใช้ชื่อเรื่องว่า “เครือฟ้า” นำแสดงโดย สุพรรษา เนื่องภิรมย์ กับ นิรุตต์ ศิริจรรยา

สนั่น ธรรมธิ
สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เเหล่งที่มา http://www.thainews70.com
 

2 ความคิดเห็น: